การรีโนเวทบ้านเป็นการลงทุนที่ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ หากคุณกำลังคิดจะปรับปรุงบ้านเก่าให้กลายเป็นบ้านใหม่ที่น่าอยู่ การทำความเข้าใจขั้นตอนการรีโนเวทบ้านอย่างครบถ้วน รวมถึงบทบาทของบริษัทรับฝากของที่จะช่วยให้การรีโนเวทบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ประหยัดเวลาและงบประมาณนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ บทความนี้จะนำเสนอ 11 ขั้นตอนที่คุณควรเตรียมตัวก่อนเริ่มลงมือรีโนเวทบ้าน

รีโนเวทบ้านคืออะไร
การรีโนเวทบ้าน (Renovate House) คือการปรับปรุง ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง รูปแบบ รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานของที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคาร หรือคอนโดมิเนียม ให้มีสภาพที่ดีขึ้น สวยงามขึ้น ทันสมัยขึ้น หรือตอบโจทย์การใช้งานที่เปลี่ยนไป
11 ขั้นตอนการรีโนเวทบ้าน
เพื่อให้การรีโนเวทบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความผิดพลาด การทำตามขั้นตอนการรีโนเวทบ้านที่เป็นระบบจะช่วยให้คุณควบคุมสถานการณ์ได้ตั้งแต่ต้นจนจบได้ดียิ่งขึ้น
1. กำหนดเป้าหมายของการรีโนเวทบ้าน
ก่อนจะลงมือเปลี่ยนแปลงหรือรีโนเวทบ้าน เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายและตั้งคำถามกับตัวเองให้แน่ชัดว่า “อยากรีโนเวทบ้านเพื่ออะไร?” เช่น เพื่อให้บ้านน่าอยู่ขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หรือเพื่อปรับบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองที่เปลี่ยนไป เมื่อเรารู้เป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว จะทำให้การวางแผนในขั้นตอนถัดไปง่ายขึ้น และยังช่วยให้สื่อสารกับสถาปนิกหรือช่างได้เข้าใจตรงกันอีกด้วย
2. สำรวจสภาพบ้านและโครงสร้างเดิม
การสำรวจสภาพบ้านและโครงสร้างเดิมเป็นขั้นตอนการรีโนเวทบ้านที่สำคัญมาก คุณต้องตรวจสอบสภาพโครงสร้างหลัก เช่น เสา คาน ฐานราก เพื่อดูว่ายังแข็งแรงหรือต้องการซ่อมแซม การตรวจสอบระบบไฟฟ้า ประปา และระบายน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะอาจต้องมีการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย การประเมินสภาพบ้านอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณวางแผนการซ่อมแซมและประมาณงบประมาณได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
3. ศึกษากฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
การรีโนเวทบ้าน ไม่ได้เป็นเรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ในการรีโนเวทบ้าน เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะร่น ความสูงอาคาร หรือการขออนุญาตก่อสร้าง/ดัดแปลงอาคาร การศึกษาข้อมูลเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหลีกเลี่ยงปัญหาหรือการถูกสั่งระงับการก่อสร้างได้
4. วางแผนงบประมาณและแหล่งเงินทุน
การวางแผนงบประมาณเป็นหัวใจสำคัญของขั้นตอนการรีโนเวทบ้าน คุณควรแบ่งงบประมาณออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงงาน ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือ รวมถึงค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด แนะนำให้เผื่องบสำรองไว้อย่างน้อย 20% เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
นอกจากนี้ การหาแหล่งเงินทุนก็เป็นสิ่งที่ต้องวางแผนล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นเงินสะสม สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อรีโนเวทบ้าน การเปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่าง ๆ จะช่วยให้คุณเลือกแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมที่สุดได้
5. ออกแบบและเขียนแบบ
การออกแบบและเขียนแบบเป็นขั้นตอนการรีโนเวทบ้านที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความรอบคอบ คุณสามารถหาไอเดียรีโนเวทบ้านจากหลากหลายแหล่ง เช่น นิตยสาร เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือจ้างสถาปนิกและนักออกแบบมืออาชีพ เพื่อให้ได้แบบบ้านที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
6. เตรียมพื้นที่และสิ่งของ
เมื่อแบบแปลนและงบประมาณลงตัว การเตรียมพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการรีโนเวทคือสิ่งถัดไป เริ่มจากการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ส่วนตัว และสิ่งของมีค่าออกจากพื้นที่ที่จะทำการรีโนเวทบ้าน เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและเพื่อความสะดวกในการทำงานของช่าง

7. วางแผนการขนย้ายสิ่งของชั่วคราว
การวางแผนการขนย้ายสิ่งของชั่วคราวเป็นขั้นตอนการรีโนเวทบ้านที่หลายคนมักมองข้าม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งของส่วนตัวต้องได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อป้องกันความเสียหายในระหว่างการรีโนเวทบ้าน สำหรับเรื่องนี้ บริการเก็บของชั่วคราวจะเป็นตัวช่วยสำคัญ ซึ่งจะมีบริการรับ-ส่งสิ่งของถึงหน้าบ้าน พร้อมทั้งจัดเก็บในที่ปลอดภัย ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการสิ่งของในระหว่างการปรับปรุงบ้าน
8. งานรื้อถอน โครงสร้างและระบบพื้นฐาน
งานรื้อถอนเป็นจุดเริ่มต้นของการรีโนเวทบ้านจริง ๆ ขั้นตอนนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง เริ่มจากการรื้อถอนส่วนที่ไม่ต้องการออกไปอย่างถูกวิธี และดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งการทำงานร่วมกับช่างผู้ชำนาญจะช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยและคุณภาพของงานมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้คุณอาจเลือกวันที่เหมาะสมสำหรับเริ่มงานรีโนเวทบ้านตามฤกษ์ซ่อมแซมบ้าน อาจจะช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นมากขึ้นตามความเชื่อของคนไทย
9. งานก่อฉาบ ปูพื้น และติดตั้งผนัง
หลังจากงานโครงสร้างหลักเสร็จสิ้น ขั้นต่อไปคือการก่อฉาบผนัง ปูพื้น และติดตั้งวัสดุผนังต่างๆ ตามที่ออกแบบไว้ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับสภาพการใช้งาน เช่น กระเบื้องไม้ลามิเนตสำหรับพื้น หรือสีทาบ้านที่ทนทานต่อสภาพอากาศ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว
10. งานตกแต่งและเก็บรายละเอียด
เมื่อโครงสร้างและผิวผนังต่าง ๆ ถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนการตกแต่งและเก็บรายละเอียดจะเป็นการเติมเต็มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการทาสีผนัง การติดตั้งบัวเชิงผนัง การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น สวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟ รวมถึงการติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เพื่อให้บ้านพร้อมสำหรับการใช้งานจริง
11. ทำความสะอาดครั้งใหญ่และจัดตกแต่ง
ขั้นตอนสุดท้ายของการรีโนเวทบ้านคือการทำความสะอาดครั้งใหญ่ เพื่อขจัดฝุ่น เศษวัสดุ และคราบสกปรกที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้าง จากนั้นจึงเริ่มจัดตกแต่งภายในและภายนอกบ้านตามความชอบ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสะท้อนความเป็นตัวคุณ
หากมีสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์บางอย่างที่ยังไม่ต้องการจัดวางทันที บริการจัดเก็บสิ่งของชั่วคราวเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยให้การจัดตกแต่งบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป
การรีโนเวทบ้านที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวางแผนและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ การทำตามขั้นตอนการรีโนเวทบ้านทั้ง 11 ขั้นตอนที่กล่าวมาจะช่วยให้การรีโนเวทบ้านของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการวางแผนที่ดีเยี่ยม สิ่งที่ไม่คาดฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ การมีผู้ช่วยที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
Widing คือผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านการจัดเก็บและขนย้ายสิ่งของแบบครบวงจร ที่พร้อมเป็นส่วนหนึ่งให้การรีโนเวทบ้านของคุณเป็นเรื่องง่าย เรามีบริการ Wi-Storage ให้คุณเช่าพื้นที่เก็บของหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ระหว่างรีโนเวทบ้าน พร้อมบริการ Wi-Deliver ที่ช่วยรับ-ส่งสิ่งของถึงประตูหน้าบ้าน นอกจากนี้ Widing ยังมี Wi-Protect ที่มอบความคุ้มครองสูงสุดถึง 20,000 บาท สำหรับทรัพย์สินที่คุณฝากไว้ระหว่างรีโนเวทบ้าน
ให้ Widing ดูแลสิ่งของมีค่าของคุณ ในระหว่างที่คุณกำลังรีโนเวทบ้านในฝันให้เป็นจริง หากคุณสนใจติดต่อเราได้แล้ววันนี้ที่ 02-026-6980