แฟลตปลาทอง คืออะไร? เจาะประวัติ ตำนาน และข้อคิดจากหนึ่งในที่พักสุดคลาสสิกของกรุงเทพฯ
เมื่อเอ่ยถึง “แฟลตปลาทอง” เชื่อว่าคือชื่อที่หลายคนในกรุงเทพฯ และรังสิตคุ้นเคยอย่างดี โดยเฉพาะช่วงยุค 80s – 90s อาจคุ้นหูหรือเคยผ่านตาชื่อนี้กันมาบ้าง เพราะแฟลตปลาทองไม่ได้เป็นเพียงชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นตำนานที่สะท้อนภาพการพัฒนาเมืองและวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ในอดีตถึงปัจจุบัน

โครงการนี้จึงเคยเป็นที่ต้องการสูงในยุคนั้น และในขณะเดียวกันก็เป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัวของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างมีแบบแผน ซึ่งนำไปสู่ความหลากหลายของโครงการในปัจจุบัน รวมถึง “แบรนด์คอนโด” ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
บทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับ “แฟลตปลาทอง” ในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้ง ประวัติในอดีต ความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และบทเรียนสำคัญที่เราได้จากหนึ่งที่พักในตำนาน ที่ยังมีอิทธิพลต่อแนวคิดการอยู่อาศัยในปัจจุบัน
พร้อมทั้งปิดท้ายด้วยข้อคิดดี ๆ ที่ควรคำนึงก่อนการย้ายที่อยู่ใหม่ เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นว่าการย้ายที่อยู่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเปลี่ยนสถานที่ แต่คือการตั้งต้นชีวิตใหม่ที่ต้องคิดให้รอบคอบ และเพื่อการเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนเองอย่างแท้จริง
แฟลตปลาทอง อยู่ที่ไหน? ทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้งคือหัวใจสำคัญของโครงการอสังหาริมทรัพย์เสมอ แฟลตปลาทองก็เช่นกัน ในอดีต ทำเลของโครงการถูกมองว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทำงานในยุคนั้นได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีจุดเด่นดังนี้
จุดเด่นของทำเลที่ตั้งในอดีต
- ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่: ตั้งอยู่ในพื้นที่รังสิต ซึ่งในยุคก่อตั้งยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก แต่ถูกมองว่ามีศักยภาพสูง เนื่องจากอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งมีพนักงานโรงงานกว่า 300,000 คน ทำให้มีความต้องการที่พักอาศัยสูงในบริเวณนั้น
- การเข้าถึงขนส่งสาธารณะ: การเดินทางด้วยรถเมล์ถือเป็นจุดเด่นสำคัญในยุคนั้น เพราะการจราจรยังไม่หนาแน่น และขนส่งสาธารณะหลักคือรถเมล์ การที่โครงการตั้งอยู่ใกล้ป้ายรถเมล์จึงเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในสมัยนั้น
ปัจจุบัน แฟลตปลาทองไม่ได้ใช้ชื่อเดิมแล้ว แต่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “รังสิตซิตี้” หลังจากที่บริษัท ปลาทองกะรัต จำกัด ได้ขายโครงการให้กับกลุ่มซัมมิทของตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ การเปลี่ยนแปลงของทำเลที่ตั้งจากอดีตถึงปัจจุบันสะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยที่กำหนด “ทำเลทอง” นั้นเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างมีนัยสำคัญ
ในอดีต การเข้าถึงรถเมล์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ในปัจจุบัน การเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่อย่างรถไฟฟ้ากลายเป็นตัวกำหนดมูลค่าและความน่าสนใจของอสังหาริมทรัพย์
จุดเด่นของทำเลที่ตั้งในปัจจุบัน
- การเดินทางสะดวกสบาย: ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนบางพูน และทางยกระดับอุตราภิมุข
- ใกล้ระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่: สามารถเข้าถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงได้
- โอบล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน: ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เช่น ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเมเจอร์รังสิต
- อยู่ใกลักลับสถานพยาบาลและสถานศึกษา: โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาลอส, มหาวิทยาลัยรังสิต
แฟลตปลาทอง สมัยก่อน จุดเริ่มต้นของโครงการแฟลตในยุครัฐบาลพัฒนาเมือง
ย้อนกลับไปในยุคที่เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เฟื่องฟู แฟลตปลาทองถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกระดับ

จุดเริ่มต้นและผู้พัฒนา
- แฟลตปลาทองก่อตั้งโดย บริษัท ปลาทองกะรัต จำกัด ซึ่งเดิมทีเคยเป็นธุรกิจผลิตวุ้นเส้น “ตราปลาทอง” มานานกว่า 50 ปี
- ตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2532
- การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจประเทศขยายตัวอย่างมาก การลงทุนในประเทศฟื้นตัว และนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการที่ดินเพื่อสร้างสำนักงาน โรงงาน และที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น
- โดยเฉพาะอาคารชุด (คอนโด) ถือเป็นยุคทองที่สองของอาคารชุดในช่วงปี พ.ศ. 2530-2532 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์คึกคักเป็นพิเศษ
- ในช่วงเวลาเดียวกัน ตัวเมืองกรุงเทพฯ ก็ขยายตัวสู่ชานเมืองอย่างสมบูรณ์ ทำให้ประชากรในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นกว่า 3.9 ล้านคน
รายละเอียดโครงการและกลุ่มเป้าหมาย
- โครงการแฟลตปลาทองเปิดตัวในปี 2532 นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ในยุคนั้น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 130 ไร่ (ประมาณ 51 เอเคอร์)
- ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์ 72 ยูนิต และแฟลตสำหรับพักอาศัย 7,280 ยูนิต ทำให้เป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น
- กลุ่มเป้าหมายคือผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 189,000 บาทต่อห้อง ซึ่งถือเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายอย่างยิ่ง
- เงื่อนไขการจองที่ง่ายดาย (ค่าจอง 5,000 บาท, ดาวน์ต่ำ, ผ่อนน้อย) ทำให้คนรายได้ไม่กี่พันบาทก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ซึ่งเป็นการปฏิวัติแนวคิดการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในยุคนั้น
กลยุทธ์การตลาดและความสำเร็จ
- คุณพงศกร ญานเบญจวงศ์ เจ้าของบริษัท ได้ลงทุนมหาศาลกว่า 20 ล้านบาทในการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุ และรถโฆษณา 40-50 คัน เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขาย
- วันที่ 9 เดือน 9 เป็นหนึ่งในกลยุทธ์แห่งการโฆษณาในตำนานของ “แฟลตปลาทอง”
- สโลแกน “คุ้มจริงๆ คุ้มจริงๆ ยิ่งกว่าคุ้ม คุ้มทุกสิ่ง คุ้มที่แฟลตปลาทอง” กลายเป็นที่จดจำและโด่งดังไปทั่วประเทศ สร้างปรากฏการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์
- มีการทำเป็นเพลง และเชิญนักแสดงตลกระดับแถวหน้าของเมืองไทย แต่งกายเลียนแบบศิลปินต่างชาติคนดัง

ด้วยทำนองเพลง และประโยคคำพูดที่ติดหู ทำให้กลายเป็นที่จดจำในยุคนั้น
- ในช่วงแรกเริ่ม โครงการมีพื้นที่ส่วนกลางที่ได้รับการดูแลอย่างดี เช่น สนามเด็กเล่นและสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นจุดดึงดูดสำคัญ
- ความสำเร็จในช่วงแรกของแฟลตปลาทองเป็นผลมาจากการปรับตัวเข้ากับกระแสการเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของเมืองในปลายทศวรรษ 1980 รวมถึงการนำเสนอรูปแบบการเป็นเจ้าของบ้านที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติในยุคนั้น
แฟลตปลาทอง ปัจจุบัน ยังคงอยู่ไหม? สภาพแวดล้อมและความเปลี่ยนแปลง
จากโครงการที่เคยโด่งดังและเป็นที่ต้องการ แฟลตปลาทองได้เผชิญกับความท้าทายมากมายที่ทำให้สภาพแวดล้อมและสถานะของโครงการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตามกาลเวลา

การเปลี่ยนผ่านและการล้มละลาย
- คุณพงศกรตัดสินใจขายแฟลตปลาทองให้กับกลุ่มซัมมิทของตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ และโครงการได้เปลี่ยนชื่อเป็น “รังสิตซิตี้” ซึ่งเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน
- ส่วนบริษัท ปลาทองกะรัต จำกัด ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ได้ยื่นล้มละลายในปี 2559 ซึ่งเป็นบทสรุปของปัญหาการบริหารจัดการที่สะสมมา
สภาพแวดล้อมและปัญหาที่พบ
- โครงการขาดการบริหารจัดการที่ดี ไม่มีผู้ดูแลส่วนกลางอย่างเป็นระบบ ทำให้สภาพแวดล้อมทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด
- ปัญหาด้านความปลอดภัยเกิดขึ้น แม้จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัย แต่คนแปลกหน้าก็สามารถเข้าออกได้ง่าย ซึ่งบางครั้งนำไปสู่เหตุอาชญากรรม
- มีหลายตึกถูกทิ้งร้างเนื่องจากลูกค้าไม่โอนกรรมสิทธิ์ และบางตึกก็สร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้โครงการดูเสื่อมโทรมและไม่น่าอยู่อาศัย
- สิ่งอำนวยความสะดวกเดิม เช่น สระว่ายน้ำ สโมสร สวนหย่อม และสนามเด็กเล่น ไม่สามารถใช้งานได้มานานกว่า 10 ปีแล้ว
- ผู้อยู่อาศัยที่เหลือส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ซื้อตั้งแต่แรกเริ่มและคุ้นชินกับสถานที่ จึงไม่ประสงค์จะย้ายออกไปที่อื่น
สถานะการซื้อขายและการพัฒนาใหม่
- ปัจจุบัน แฟลตปลาทองบางห้องยังคงมีการขายและให้เช่า ทั้งจากเจ้าของโดยตรงและทรัพย์ NPA ของธนาคาร
- ราคาขายปัจจุบันมีความหลากหลายอย่างมาก ตั้งแต่ 40,000 – 50,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนบาทต่อห้อง โดยข้อมูล ณ ปี 2556 ระบุราคาตลาดประมาณ 50,000 – 300,000 บาทต่อห้อง หรือ 1,785 – 10,715 บาทต่อตารางเมตร
- สำหรับราคาค่าเช่าต่อห้องอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งสะท้อนถึงตลาดที่อยู่อาศัยราคาประหยัด
- บางตึกในโครงการถูกนำมารีโนเวตเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในชื่อ “ซิตี้ คอนโด (City Condo)” โดยมีราคาขายประมาณ 699,000 บาทต่อห้อง
ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงสร้างเดิมและตอบสนองความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัยราคาประหยัดในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงของทำเลและค่านิยม
- การเปลี่ยนแปลงของทำเลรอบข้างก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ในอดีต การมีรถเมล์ผ่านเป็นจุดเด่น แต่ปัจจุบันผู้ซื้อคอนโดให้ความสำคัญกับทำเลที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่ เช่น รถไฟฟ้ามากขึ้น
- โฆษณาอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันมักเน้น “เพียง 5 นาที จากรถไฟฟ้า” หรือ “ทำเลทองใกล้สถานีรถไฟฟ้า” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมด้านทำเลอย่างชัดเจน
- การเสื่อมโทรมของแฟลตปลาทองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการขาดการบริหารจัดการที่ดีในระยะยาวสามารถนำไปสู่การเสื่อมสภาพของโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
แม้จะเคยประสบความสำเร็จอย่างสูงในอดีตก็ตาม อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนชื่อและการปรับปรุงบางส่วนเพื่อสร้าง “ซิตี้ คอนโด” แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการฟื้นฟูและการปรับตัวของที่ดินในเมืองเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของตลาด
บทเรียนจากแฟลตปลาทอง – ก่อนจะย้ายที่อยู่ใหม่ ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
เรื่องราวของแฟลตปลาทองเป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับทุกคนที่กำลังคิดจะย้ายที่อยู่ หรือกำลังมองหาบ้านใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด ทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยว การตัดสินใจครั้งใหญ่เช่นนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การย้ายบ้านนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

ความสำคัญของการบริหารจัดการนิติบุคคลและส่วนกลาง
- จากกรณีแฟลตปลาทอง การมีนิติบุคคลที่เข้มแข็งและการบริหารจัดการส่วนกลางที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้โครงการคงสภาพดี มีความปลอดภัย และน่าอยู่ในระยะยาว
- การที่โครงการขาดการดูแลจัดการที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แฟลตปลาทองเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น ควรศึกษาประวัติการบริหารจัดการของโครงการนั้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อหรือเช่าอย่างละเอียด
ปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งและการเดินทาง
- ทำเลที่ “ดี” เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างชัดเจน จากที่เคยเน้นการเข้าถึงรถเมล์ ปัจจุบันระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้ากลายเป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มมูลค่าและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
- การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองมีผลอย่างมากต่อมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว
ผู้ที่กำลังจะย้ายที่อยู่จึงควรพิจารณาแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตของพื้นที่นั้นๆ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ หรือถนนตัดใหม่ ที่จะส่งผลต่อการเดินทางและมูลค่าทรัพย์สินในระยะยาว และหากการเดินทางไม่สะดวกจะส่งผลต่อวิธีย้ายบ้านของเราแน่นอน
ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมของชุมชน
- ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แฟลตปลาทองแสดงให้เห็นว่าแม้จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัย แต่หากการจัดการไม่ดี ก็อาจเกิดปัญหาอาชญากรรมได้
- สภาพแวดล้อมที่ขาดการดูแลและมีปัญหาอาชญากรรมย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น ควรสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ ชุมชนใกล้เคียง และอัตราการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดี
การประเมินค่าใช้จ่ายแฝงและค่าส่วนกลาง
- ราคาซื้อที่ถูกอาจไม่ใช่ทั้งหมด ค่าส่วนกลางและการบำรุงรักษาในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ตลอดไป
- การที่แฟลตปลาทองมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำมากในอดีต อาจส่งผลให้การจัดเก็บค่าส่วนกลางไม่เพียงพอต่อการบำรุงรักษาในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่การเสื่อมโทรมของโครงการ
- ควรสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ เช่น ค่าที่จอดรถ ค่าขยะ หรือค่าบริการเพิ่มเติม เพื่อวางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบและหลีกเลี่ยงภาระที่ไม่คาดคิดในอนาคต
การวางแผนการย้ายบ้านอย่างรอบคอบ
การย้ายบ้านเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน การวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 อาทิตย์ถึง 1 เดือน การศึกษาวิธีย้ายบ้านจะช่วยให้การย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งการเตรียมตัวที่ดีจะช่วยลดความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้กับเราได้

เช็คลิสต์การย้ายบ้านที่สำคัญ
- ตรวจสอบและเตรียมความพร้อมของบ้านใหม่ เช่น ตรวจสอบระบบน้ำ ไฟ และโครงสร้างให้เรียบร้อย
- แจ้งเปลี่ยนที่อยู่กับหน่วยงานและบริษัทต่างๆ เช่น ธนาคาร บริษัทประกัน หรือหน่วยงานราชการ เพื่อให้เอกสารสำคัญไม่ตกหล่น
- ทำรายการสิ่งของที่ต้องย้ายและคัดแยกของที่ไม่ใช้แล้ว การศึกษาวิธีย้ายบ้านจะช่วยให้เราลดปริมาณของและค่าใช้จ่ายในการขนย้ายที่อาจจะเสียให้กับสิ่งของที่ไม่จำเป็นได้
- ถ่ายรูปห้องเดิมเพื่อช่วยในการจัดห้องใหม่ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของใช้ให้เป็นระเบียบ
- ตกแต่ง ซ่อมแซม หรือทำความสะอาดบ้านใหม่ก่อนขนของเข้า เพื่อให้บ้านพร้อมสำหรับการอยู่อาศัยทันที
การพิจารณาประเภทของที่อยู่อาศัย
- ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่คอนโดมิเนียมทั่วไปไปจนถึง “แบรนด์คอนโด” (Branded Residences)
- “แบรนด์คอนโด” เป็นการร่วมมือระหว่างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับแบรนด์โรงแรมชั้นนำ เพื่อมอบบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโรงแรม
- การทำความเข้าใจประเภทของที่อยู่อาศัยจะช่วยให้คุณเลือกได้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการ รวมถึงงบประมาณของคุณ ทำความรู้จัก แบรนด์คอนโด และรูปแบบที่อยู่อาศัยอื่นๆ เพื่อการตัดสินใจที่ใช่สำหรับคุณ
บทสรุป
จากตำนานของ “แฟลตปลาทอง” เราได้เห็นถึงพลวัตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ตั้งแต่ความรุ่งเรืองในอดีตจนถึงบทเรียนอันล้ำค่าในปัจจุบัน เรื่องราวนี้ย้ำเตือนว่าการเลือกที่อยู่อาศัยไม่ใช่เพียงการหาที่พักพิง แต่คือการลงทุนในอนาคตและคุณภาพชีวิต
การตัดสินใจย้ายที่อยู่จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกมิติ ทั้งทำเลที่ตั้ง การบริหารจัดการโครงการ ความปลอดภัย และค่าใช้จ่ายแฝง เพื่อให้การตั้งต้นชีวิตใหม่ในสถานที่แห่งใหม่นั้นเป็นไปอย่างราบรื่น คุ้มค่า และนำมาซึ่งความสุขที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เรื่องราวของแฟลตปลาทองจึงเป็นเครื่องเตือนใจว่าการเลือกที่อยู่อาศัยเป็นการตัดสินใจที่ต้องมองไปข้างหน้าอย่างรอบด้านให้ครบทุกมิติ